วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คิดอย่างไรกับประกันสะสมทรัพย์ระยาะเวลายาวๆ เรามาดูกันครับ


นำบทความที่คิดว่าน่าสนใจมาแบ่งปันครับ
การทำประกันแบบสะสมทรัพย์ระยายาว ในมุมมองของผม เป็นสิ่งที่ไม่คุ้ม เนื่องจาก
1.ถ้าต้องการความคุ้มครอง การซื้อประกันแบบตลอดชีวิต หรือแบบจ่ายเบี้ยทิ้ง คุณจะได้ความคุ้มครองมากว่า
2.ประกันแบบจ่ายเบี้ยทิ้ง หากจะเวรคืนกรมธรรม์ในช่วงแรก คุณได้เงินคืนเกือบหมด โดยบริษัทจะหักค่าดำเนินการและค่าคอมมิชั่นของตัวแทนออก เหลือเท่าไหร่ก็จะคืนให้เรา

ตัวอย่างเช่น ถ้าทำประกันแบบ 20 ปี ปีละ 100,000 บาท ทุนประกัน 2,000,0000 บาท
ความคุ้มครองแบบนี้แล้ว หากคุณจ่ายแค่ปีเดียว 100,000 บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครอง 2,000,000 บาท คุณมีสิทธิ์ที่จะเวรคืนเงินสดตอนไหนก็ได้ ตามตารางกรมธรรม์ที่ได้กำหนดไว้ตามแต่กรมธรรม์

บางคนมองว่า ถ้าทำประกันแล้ว เกิดเหตุไม่คาดฝัน คุณก็จะรู้ว่า ทำประกันแบบจ่ายเบี้ยทิ้งแล้ว จะได้ความคุ้มครองมากกว่าจำนวนหลายเท่าตัว ถ้าเทียบกับทำประกันแบบสะสมทรัพย์

จะยกตัวอย่างเปรียบเทียบอีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ



จากตัวอย่าง เราทำประกันแบบสะสมทรัพย์ จ่าย  7 ปี คุ้มครอง 15 ปี เราจ่ายเบี้ยทั้งหมด 747,000 บาท บวกกับปันผลที่เราได้เพิ่มและสะสมไว้กับบริษัท รวมเป็นเงินที่เราจะได้เมื่อครบสัญญา 15 ปี คือ 940,000 บาท



หากเราเปรียบเทียบกับเราออมทรัพย์กับธนาคาร หรือออมกับที่อื่นให้ได้ดอกเบี้ย 2.5%,3%,3.5% ลองดูตารางขั้นต้นสิครับ ว่าเราจะได้กำไรเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับเราทำประกันแบบสะสมทรัพย์ จริงอยู่ที่เราทำประกันแล้วมีความคุ้มครองไปด้วย แต่ถ้าเราซื้อประกันแบบจ่ายทิ้งเพื่อคุ้มครองตามความคุ้มครองที่เราต้องการนั้น จะคุ้มหรือไม่ ลองคิดดูครับ เพราะแบบประกันใหญ่ๆมีทั้งหมดคือ 3 แบบ
1.ประกันแบบตลอดชีวิต
2.ประกันแบบสะสมทรัพย์
3.ประกันแบบซื้อตามระยะเวลา
จากตัวอย่างดังกล่าว หากเราฝากหรือออมแบบอื่นที่ไม่ใช่ประกัน ครบ 15 ปี เราจะได้เงิน 1,006,665 บาท (ดอกเบี้ย 2.5%) ลบกับ 940,000 บาทที่เราทำประกัน เราจะได้กำไรส่วนต่าง คือ 66,665 บาท (เราเอาเงินที่ได้จากกำไรตรงนี้มาซื้อประกันแบบจ่ายเบี้ยทิ้งไม่ดีกว่าหรอ เพื่อคุ้มครองตามทุนที่เราต้องการ

พ.ต.ต.เร๊าะมัน หะนิแร ตัวแทนประกันชีวิต AIA โทร.0887886015 ID Line:man4460





วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คำถามที่ต้องรู้ในเรื่องประกันชีวิต AIA

เรื่อง การรับการพิจารณาทำประกัน

Q : ผู้ที่ต้องการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตจำเป็นต้องผ่าน การตรวจสุขภาพทุกคนหรือไม่ ?
A : ไม่จำเป็น ผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์และมีอายุและจำนวนเงินเอาประกันภัยที่สมัครอยู่ภายใน กฎเกณฑ์ที่กำหนด ก็สามารถที่จะขอเอาประกันแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพได้
Q : แบบของการประกันชีวิตมีกี่แบบ ?
A : การประกันชีวิตมีแบบหลัก ๆ ที่เสนอขายอยู่ดังนี้
  • แบบกำหนดระยะเวลา
  • แบบตลอดชีพ
  • แบบสะสมทรัพย์
Q : มีสัญญาเพิ่มเติมใดที่ให้ผลประโยชน์ และความคุ้มครองซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้หญิงโดยเฉพาะหรือไม่ ?
A : มีสัญญาเพิ่มเติมที่ออกแบบสำหรับผู้หญิงโดย เฉพาะเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงภัยเรื่องโรคมะเร็งสตรี และความเสี่ยงภัยของการมีบุตรคือ
  1. สัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์เลดี้แคร์ (LADY CARE)
  2. สัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์เลดี้แคร์พลัส (LADY CARE PLUS)
ความคุ้มครองได้แก่
  • ความคุ้มครองมะเร็งเกี่ยวกับสตรี (มะเร็งเต้านม, ปากมดลูก, มดลูก, ปีกมดลูก, รังไข่, ช่องคลอด, ปากช่องคลอด, และมะเร็งของรก)
  • โรค S.L.E. ชนิดที่มีภาวะไตอักเสบ
  • ศัลยกรรมฟื้นฟูสภาพเนื่องจากอุบัติเหตุกระดูกใบหน้าหรือไฟ ไหม้น้ำร้อนลวก
  • ความเสี่ยงของการมีบุตร รวมถึงการเสียชีวิตเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดบุตร (ความคุ้มครองเฉพาะ Lady Care Plus)
Q : การประกันภัยอุบัติเหตุคืออะไร
A : การประกันภัยอุบัติเหตุคือ การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากความ บาดเจ็บทางร่างกายของผู้เอาประกันภัยโดยอุบัติเหตุ
Q  : ความคุ้มครองของการประกันภัยอุบัติเหตุมีอะไรบ้าง
A  : ในการทำประกันภัยอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกรับผลประโยชน์และความคุ้มครองต่างๆ ได้แก่
  1. การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือสายตา
    ถ้าความบาดเจ็บที่ได้รับจากอุบัติเหตุทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะภายใน 180 วัน นับแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ บริษัทฯ จะจ่าย ค่าทดแทนให้ดังต่อไปนี้

    100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการเสียชีวิต
    100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับมือสองข้าง ตั้งแต่ข้อมือ หรือเท้าทั้งสองข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า หรือสายตาทั้งสองข้าง
    100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับมือหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อมือและข้อเท้าหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า
    100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับมือหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อมือและสายตาหนึ่งข้าง
    100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับเท้าหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อเท้าและสายตาหนึ่งข้าง
    60 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับมือหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อมือ
    60 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับเท้าหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า
    60 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับสายตาหนึ่งข้าง

    การสูญเสียโดยถาวรสิ้นเชิงให้รวมถึง การสูญเสียสมรรถภาพในการใช้งานของอวัยวะนั้นโดยถาวรสิ้นเชิง การสูญเสียสายตา หมายความถึง ตาบอดสนิท และไม่มีทางรักษาให้หายได้ตลอดไป
  2. ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
    ผู้เอาประกันภัยตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงภายใน 180 วัน นับแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุและความทุพพลภาพนั้นได้เป็นไปติดต่อกันไม่น้อย กว่า 12 เดือน นับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุหรือมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ชัดเจนว่า ผู้เอาประกันภัยตกเป็นบุคคลทุพพภาพถาวรสิ้นเชิง บริษัทฯ จะจ่ายค่าทดแทนให้เต็มตาม จำนวนเงินเอาประกันภัยที่ทำไว้
  3. ทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง หรือเงินจุนเจือต่อสัปดาห์ 
    ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ผู้เอาประกันภัยตกเป็นบุคคลทุพพลภาพชั่วคราว สิ้นเชิงภายใน 180 วัน นับแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ การงานในอาชีพของตนเองได้ บริษัทฯ จะจ่ายเงินชดเชยเป็นรายสัปดาห์ให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามระยะเวลาที่ความ พิการชั่วคราวเกิดขึ้นและตามความเห็น ของแพทย์ผู้ทำการรักษา ทั้งนี้บริษัทฯ จะจ่ายต่อเนื่องกันไม่เกิน 52 สัปดาห์
  4. เงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล ถ้าความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องมี การรักษาโดยแพทย์หรือศัลยแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ตามกฏหมาย ผู้เอาประกันภัย จะได้รับการชดเชยค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายไปจริงแก่คลินิกแผนปัจจุบันหรือ โรงพยาบาล ซึ่งเป็นผู้ทำการรักษา ค่ารักษาพยาบาลนี้รวมไปถึง ค่าห้องพัก ค่าศัลยกรรมตกแต่งบาดแผล ฯลฯ แต่ไม่รวมถึงการจ้างพยาบาลพิเศษ บริษัทจะชดเชยค่ารักษาพยาบาลซึ่งเกิดขึ้นภายใน 52 สัปดาห์ นับแต่วันที่เกิด อุบัติเหตุและจะต้องมีใบรับรองแพทย์ ใบเคลม และใบเสร็จรับเงินตัวจริงเป็นหลักฐานในการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลนี้
  5. ฆาตกรรมและลอบทำร้าย 
    ผู้เอาประกันภัย จะได้รับการชดเชยจากการถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย ตามวงเงินที่เลือกซื้อไว้ในกรณีของการสูญเสียชีวิต
  6. ความคุ้มครองและผลประโยชน์อื่นๆ เช่น ความคุ้มครองผลประโยชน์กระดูกแตกหัก น้ำร้อนลวกหรือไฟไหม้ ผลประโยชน์ค่าชดเชยรายวันขณะเข้ารักษาตัว ในโรงพยาบาล ผลประโยชน์ค่าชดเชยรายเดือนสำหรับการดำรงชีพ เป็นต้น
Q : ข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุมีอะไรบ้าง
A : 
1. ความสูญเสีย หรือความเสียหายใด ๆ อันเกิดจาก หรือสืบเนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้
  • การกระทำของผู้เอาประกันภัยขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา สารเสพติด หรือยาเสพติดให้โทษจนไม่สามารถครองสติได้ตั้งแต่ 150 มิลลิกรัม เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
  • ฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายร่างกายตนเอง
  • การได้รับเชื้อโรค เว้นแต่การติดเชื้อโรค หรือบาดทะยัก หรือโรคกลัวน้ำ ซึ่งเกิดจากบาดแผลที่ได้รับมาจากอุบัติเหตุ
  • การรักษาทางเวชกรรมหรือศัลยกรรม เว้นแต่ที่จำเป็นจะต้องกระทำเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ซึ่งได้รับความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยนี้ และได้กระทำ ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
  • การแท้งบุตร
  • การรักษาฟัน การรักษารากฟัน การเปลี่ยนหรือใส่ฟันปลอม เว้นแต่การรักษาพยาบาลเบื้องต้นอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุ
  • การปวดหลัง อันมีสาเหตุมาจาก หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเลื่อน กระดูกสันหลังเสื่อม หรือกระดูกสันหลังอักเสบ และภาวะเว้นแต่มี การแตกหัก หรือเคลื่อนของกระดูกสันหลังอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ
  • สงคราม (ไม่ว่าจะประกาศหรือไม่ก็ตาม) การรุกราน หรือการกระทำของศัตรูต่างชาติ สงครามกลางเมือง การปฏิวัติ การกบฏ การที่ประชาชนก่อความวุ่นวาย ถึงขนาดลุกฮือขึ้นต่อต้าน รัฐบาล การจราจล การนัดหยุดงาน
  • อาวุธนิวเคลียร์ การแผ่รังสี หรือกัมมันตภาพรังสีจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ หรือจากกากนิวเคลียร์ใดๆ อันเนื่องมาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์และ กรรมวิธีใดๆ แห่งการแตกแยกตัวทางนิวเคลียร์ซึ่งดำเนินการติดต่อกันไปโดยตัวของมันเอง

2. ความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาต่อไปนี้

  • ขณะที่ผู้เอาประกันภัยล่าสัตว์ในป่า แข่งรถหรือแข่งเรือทุกชนิด แข่งม้า เล่นหรือแข่งสกีทุกชนิด แข่งสเก็ต ชกมวย โดดร่ม (เว้นแต่การโดดร่มเพื่อรักษาชีวิต) ขณะกำลังขึ้นหรือกำลังลง หรือโดยสารอยู่ในบอลลูน หรือเครื่องร่อน เล่นบันจี้จั๊มพ์ ปีนหรือไต่เขาที่ต้องใช้เครื่องมือช่วยดำน้ำที่ต้องใช้ถังอากาศและเครื่อง ช่วย หายใจใต้น้ำ
  • ขณะที่ผู้เอาประกันภัยขับขี่ หรือโดยสารจักรยานยนต์
  • ขณะที่ผู้เอาประกันภัยกำลังขึ้นหรือกำลังลง หรือขณะโดยสารอยู่ในอากาศยานที่มิได้จดทะเบียนเพื่อบรรทุก ผู้โดยสาร และมิได้ประกอบการโดยสารการบินพาณิชย์
  • ขณะที่ผู้เอาประกันภัยขับขี่หรือปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงาน ประจำอากาศยานใดๆ
  • ขณะที่ผู้เอาประกันภัยเข้าร่วมทะเลาะวิวาทหรือมีส่วนยั่วยุให้เกิดการทะเลาะ วิวาท
  • ขณะที่ผู้เอาประกันภัยก่ออาชญากรรม หรือขณะที่ถูกจับกุม หรือหลบหนีการจับกุม
  • ขณะที่ผู้เอาประกันภัยปฏิบัติหน้าที่เป็น ทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัครและเข้าปฏิบัติการในสงคราม หรือปราบปราม แต่หากการเข้าปฏิบัติการนั้นเกิน 30 วัน บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัย ตั้งแต่ระยะเวลาที่เข้าปฏิบัติการสงคราม หรือปราบปรามนั้น จนถึงวันสิ้นสุดการปฏิบัติการนั้น ส่วนหลังจากนั้นให้กรมธรรม์มีผลบังคับ
    ต่อไปจนสิ้นสุดระยะเวลาประกันภัยที่กำหนดไว้ในตาราง
Q : คุณสมบัติของผู้เอาประกันภัยจะต้องมีอะไรบ้าง
A : บุคคลอายุตั้งแต่ 1 เดือน - 74 ปี สามารถสมัครทำประกันภัยอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้อายุและเงื่อนไขการพิจารณารับประกันอาจแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดของ
แบบประกันภัยนั้นๆ โปรดศึกษารายละเอียดของแบบประกันภัยที่ท่านสนใจก่อนสมัครทำประกัน
Q : แบบประกันภัยอุบัติเหตุที่เปิดขายที่ AIA มีอะไรบ้าง
A :
  • ประกันภัยอุบัติเหตุรายเดี่ยว
  • ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มห้างร้าน บริษัท
  • ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มนักเรียน
  • ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มรายเดือน
Q : ความคุ้มครองของประกันอุบัติเหตุ เป็นอย่างไร
A : คุ้มครอง 24 ชั่วโมง ทั่วโลก
Q : ผู้รับประโยชน์ของกรมธรรม์คือใคร เปลี่ยนแปลงได้ไหม
A : ผู้รับประโยชน์คือผู้ที่มีส่วนได้เสียกับ ผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตหรือทางการสมรส กับผู้เอาประกันภัย การเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์สามารถดำเนินการได้ตลอดระยะเวลาที่กรมธรรม์มี ผลบังคับอยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัท


เรื่อง การเปลี่ยนแปลงและต่ออายุกรมธรรม์

Q: สิ่งที่ผู้เอาประกันภัยควรรู้ในการส่งเรื่องเข้ามาเพื่อขอเปลี่ยนแปลงและต่ออายุกรมธรรม์มีอะไรบ้าง?
A: สิ่งที่ควรทราบในการส่งเรื่องเปลี่ยนแปลงและต่ออายุกรมธรรม์มีดังนี้ครับ
  • การขอซื้อสัญญาเพิ่มเติมมะเร็ง (CR) หรือเพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย ไม่สามารถทำได้ในปีต่ออายุ กรมธรรม์ แบบประกันภัย Health Guard Plan หากต้องการยกเลิกสัญญาเพิ่มเติม ต้องแนบจดหมาย (เพิ่มเติม) และชี้แจงเหตุผลประกอบ โดยให้ผู้เอาประกันภัยเซ็นชื่อในจดหมาย (พร้อมระบุข้อความรับทราบว่าไม่สามารถกลับมาขอซื้อสัญญาเพิ่มเติมในกรมธรรม์ฉบับนี้ได้อีก)
  • การขอแปลงกรมธรรม์เปลี่ยนแปลงกรมธรรม์เป็นขยายระยะเวลาหรือมูลค่าสำเร็จ (ETI/RPU) ไม่สามารถทำรายการเปลี่ยนแปลงก่อนวันกำหนดครบรอบการชำระเบี้ยประกันภัยได้ ถึงแม้จะส่งเรื่องเข้ามาเปลี่ยนแปลงก่อนก็ตาม
  • ข้อกำหนดของกรมธรรม์ที่ออกตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2546 สำหรับกรมธรรม์ที่กู้อัตโนมัติชำระเบี้ยประกันภัยไปแล้ว จะไม่มีข้อกำหนดภายใน 90 วัน ที่จะขอเลือกกลับมาเป็นกรมธรรม์แบบขยายเวลาหรือกรมธรรม์แบบมูลค่าสำเร็จ (ETI/RPU) ได้
  • ในขณะที่กรมธรรม์ยังไม่มีมูลค่าเงินสด ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแบบประกันภัยไปเป็นแบบประกันภัยที่มีอัตราเบี้ยประกัน ภัยต่ำกว่าแบบเดิม ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน แบบขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ หรือเป็นการต่ออายุกรมธรรม์ พร้อมเปลี่ยนแบบประกันภัยก็ตาม
  • การเปลี่ยนแปลงแบบประกันภัยเป็นแบบใหม่ ต้องเป็นแบบที่บริษัทฯ เปิดขายอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น
Q: ผู้เอาประกันภัยสามารถขอลดเบี้ยประกันภัยเนื่องจากสุขภาพได้หรือไม่ เมื่อใด?
A: ผู้เอาประกันภัยสามารถขอลดเบี้ยประกันภัยที่ถูกเพิ่มเนื่องจากสุขภาพได้ โดยจะต้องรอครบ 2 ปี นับจากปีที่กรมธรรม์อนุมัติ
Q: ผู้เอาประกันภัยสามารถขอยกเลิกเงื่อนไขการไม่คุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมได้หรือไม่และเมื่อใด?
A: ผู้เอาประกันภัยสามารถขอยกเลิกเงื่อนไขไม่คุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมที่มีใน กรมธรรม์ได้ โดยสามารถส่งเรื่องเข้ามาได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้ถึงวันกำหนดครบรอบชำระเบี้ยประกันภัย
เรื่อง การพิจารณาการเรียกร้องสินไหม
Q : การที่บริษัทฯ ได้ให้ระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัย เมื่อครบกำหนดแล้วออกไปอีก 31 วันนั้น อยากทราบว่าถ้าลูกค้าเกิดป่วย หรือประสบอุบัติเหตุก่อนครบ 31 วันจะสามารถ Claim ได้หรือไม่ ?
A :
 หากผู้เอาประกันภัยมิได้ชำระเบี้ยประกันภัย เมื่อครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัย บริษัทฯ จะผ่อนผันให้เป็นเวลา 31 วัน นับแต่วันถึงกำหนดชำระ โดยในระหว่างระยะเวลาผ่อนผัน กรมธรรม์ประกันภัยยังคงมีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกรมธรรม์ ประกันภัย โดยผู้เอาประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยสำหรับรอบปีกรมธรรม์นั้นด้วย อนึ่ง หากผู้เอาประกันภัยมิได้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวก่อนวันสิ้นสุดแห่งระยะเวลา ผ่อนผัน กรมธรรม์ประกันภัย จะขาดอายุหมดความคุ้มครอง และไม่มีมูลค่าใดๆ เหลืออยู่อีก เว้นแต่จะเป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับมูลค่ากรมธรรม์ประกันภัย
Q : กรณีที่ผู้เอาประกันภัยป่วย หรือประสบอุบัติเหตุและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จะสามารถให้โรงพยาบาลเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล จากบริษัทฯ โดยตรงได้หรือไม่?
A : เอไอเอ ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศในการให้บริการเรียกเก็บค่ารักษา พยาบาล โดยตรงจากบริษัทฯ สำหรับผู้เอาประกันภัยของเอไอเอ ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ารักษาพยาบาล ตลอดจนเป็นการช่วยลดภาระในการสำรองเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกัน ภัยอีกด้วยทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความสะดวกดังกล่าว ผ่านบริการ "AIA HEALTH CARE" กรณีที่มีสัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลแนบอยู่กับกรมธรรม์แบบสามัญ หรือผ่านบริการ "AIA CARE CARD" กรณีที่มีกรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคลของบริษัทฯ
Q : ในกรณีที่ต้องการเขียนเอกสารเรียกร้องสินไหม ควรใช้ปากกาสีใด
A : ควรใช้ปากกาสีน้ำเงินหรือดำ ในการเขียนเอกสารต่างๆ เพื่อความชัดเจนของเอกสาร
Q : ข้อควรทราบและปฏิบัติในการนำส่งเอกสารเรียกร้องสินไหม สำหรับแบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
A : ระบุรายละเอียดทั้งหมดอย่างถูกต้องและครบถ้วน ทั้งรายละเอียดด้านผู้เอาประกันภัย แพทย์ และตัวแทนประกันชีวิต โดยต้องเซ็นชื่อเรียกร้องในใบมอบฉันทะทุกครั้ง (ต้องเป็นลายเซ็นแบบเดียวกับที่เคยให้ไว้เมื่อสมัครทำประกัน) หากไม่สามารถเซ็นชื่อได้ให้พิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือ และระบุว่าเป็นนิ้วมือข้างใด พร้อมพยานเซ็นรับรอง 2 ท่าน และในส่วนด้านแพทย์ต้องได้รับการประทับตราของโรงพยาบาลนั้นๆ ด้วย
Q : ข้อควรทราบและปฏิบัติในการนำส่งเอกสารเรียกร้องสินไหม สำหรับใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
A :
 ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ ต้องมีชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของโรงพยาบาล วันเดือนปีที่รับเงิน ชื่อนามสกุลผู้เอาประกันภัย วันเดือนปีที่เข้าและออกจากโรงพยาบาล และต้องได้รับการประทับตราของโรงพยาบาลนั้นๆ ด้วย
Q : ในกรณีที่ต้องการขอใบเสร็จรับเงินคืนเพื่อนำไปเบิกต่อที่อื่น จะต้องดำเนินการอย่างไร
A : ควรแจ้งความประสงค์ต้องการขอใบเสร็จรับเงินคืน แนบเรื่องมาพร้อมกันกับการส่งเอกสารเรียกร้องค่าชดเชยสินไหม
  • กรณีบริษัทจ่ายค่าชดเชยฯให้ไม่เต็มตามจำนวนเงินในใบเสร็จรับเงิน บริษัทจะคืนใบเสร็จรับเงินต้นฉบับให้ โดยจะประทับตรารับรองการจ่ายลงในใบเสร็จรับเงิน
  • กรณีบริษัทจ่ายค่าชดเชยฯให้เต็มตามจำนวนเงินในใบเสร็จรับเงินแล้ว ทางฝ่ายสินไหมจะไม่คืนใบเสร็จรับเงินต้นฉบับให้ แต่จะสำเนาใบเสร็จรับเงินพร้อมประทับตรารับรองการจ่ายคืนให้เท่านั้น
Q : ในกรณีที่ยังไม่ได้รับเช็คสินไหมฯ โดยที่บริษัทได้ทำการอนุมัติจ่ายค่าชดเชยสินไหมฯแล้ว ต้องดำเนินการอย่างไร
A : ให้ติดต่อกับตัวแทนประกันชีวิตดำเนินการอายัดเช็คสินไหมฯ เพื่อออกเช็คฉบับใหม่ให้
Q : ในกรณีที่ต้องการทราบผลการพิจารณาสินไหมสามารถสอบถามได้อย่างไรบ้าง
A : ตัวแทนประกันชีวิตสามารถตรวจสอบผลการพิจาณาสินไหมได้จาก
  1. ระบบอินเตอร์เนต ที่ระบบข้อมูลตัวแทนประกันชีวิต (Agent Internet Access) – Claims หรือระบบข้อมูลการเรียกร้องสินไหม (eClaims) หัวข้อ ติดตามการเรียกร้องสินไหม (Looking for Claims?)
  2. ระบบสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์สำหรับพลังตัวแทน AIA-VRS: 0-2638-6388
  3. ใบรายงานแจ้งผลการพิจารณาสินไหม
ผู้เอาประกันภัยสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาสินไหมได้จาก
  1. AIA Call Center: 1581 (กด 1)
  2. ระบบอินเตอร์เนต ภายหลังการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบข้อมูลลูกค้า
Q : AIA Health Care คืออะไร
A : AIA Health Care คือ บริการพิเศษที่บริษัทเอไอเอ มอบให้แก่ ผู้ถือกรมธรรม์ที่มีหมายเลขกรมธรรม์ ที่ขึ้นต้นด้วยอักษร "T" และ "U" เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการชดเชย ค่ารักษาพยาบาลตามสัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลและศัลยกรรม (HS) ให้กับโรงพยาบาลโดยตรง โดยทางโรงพยาบาลจะดำเนินการเรียกร้องสินไหมฯ ผ่านระบบโทรสาร หรือ Internet มายังบริษัทฯ
Q : AIA Care Card คืออะไร
A : AIA Care Card คือ บริการพิเศษที่บริษัทเอไอเอ มอบให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ที่มีหมายเลขกรมธรรม์ ที่ขึ้นต้นด้วยอักษร "M" และ "P" เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้กับโรงพยาบาลคู่สัญญาโดยตรง
เครดิต: http://www.aia.co.th  แมน ตัวแทนประกันชีวิต AIA โทร 0887886015, ID Line:man4460,https://www.facebook.com/pages/Man-Polis-AIA-Insurance/1621571174743610

Comments system

Disqus Shortname